เขยิบเข้ามาใกล้ๆ ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่นะที่คิดว่าชีวิตคนเราทำไมมันยากจัง แต่วัยรุ่นอย่างเราๆ ก็มีเรื่องให้หนักใจไม่แพ้กันอยู่ ลองมาดูกันซิว่า ส่วนใหญ่เด็กไทยบางคนหนักใจเรื่องไหนบ้าง
1.ขอเคล็ดลับให้เลิกขี้เกียจ
ทุกคนต้องเคย ‘ขี้เกียจ’ อยู่ที่ว่าจะมีน้อยมีมาก แตกต่างกันไป บางคนก็ขี้เกียจเป็นบางเวลา บางคนก็ขี้เกียจตลอดเวลา แต่ถึงจะมีมากมีน้อย มันก็ไม่ส่งผลดีหรอกนะ ทางที่ดีเราควรหาทางทำให้ตัวเราไม่ขี้เกียจเลยดีกว่า ซึ่งเคล็ดลับง่ายๆ ที่สามารถทำกันได้ และต้องตั้งใจจริงๆ นั่นก็คือการสลัดคำว่า ‘เดี๋ยว’ ที่อยู่ในหัวออกไป แล้วเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘ทำเลย’ แทน เช่น พอเราได้การบ้านมา ก็มักจะบอกว่า เดี๋ยวค่อยทำก่อนส่ง ก็เปลี่ยนเป็น คืนนี้จะทำให้เสร็จเลย ทั้งนี้คิดจะทำอะไรแล้ว ก็ต้องลงมือทำทันที รับประกันว่า หลังจากนี้จะมีผลดีตามมามากมาย และเราจะไม่รู้สึกว่าตัวเองมีเรื่องยุ่งอยู่ตลอดด้วยนะเออ
2.ผิดใจกับเพื่อนสนิท
เคยทะเลาะกับเพื่อนสนิทมั้ย แน่นอนว่าการแสดงออกตามมาคือ นิ่งไป ไม่พูดด้วย ออกจากกรุ๊ปไลน์ หรือหนักขั้นกว่าคือเหวี่ยงใส่ตลอดเว บอกเลยว่าวิธีเหล่านี้ไม่เท่หรอกนะ หากสาเหตุที่ทำให้ผิดใจกันสามารถพูดคุยปรับความเข้าใจกันได้ ก็ควรเปิดใจเคลียร์กันตรงๆ เพราะหากเลือกที่จะเงียบกันไป อาจจะยิ่งทำให้ไม่เข้าใจกันมากขึ้น ทีนี้ความรู้สึกที่มีให้กันจะยิ่งแย่ลง เพื่อนๆ รอบข้างก็จะพลอยวางตัวลำบากไปด้วย ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจโกรธอะไรสักอย่าง อยากให้ลองนึกถึงช่วงดีๆ ที่เคยมีให้กัน ชั่งน้ำหนักดูว่าที่ผ่านมาเพื่อนคนนี้ดีกับเรามากน้อยแค่ไหน อาจจะทำให้ความโกรธเจือจางลงไปได้บ้าง ที่สำคัญเลยที่สุด เราต้องรู้จักโอนอ่อนผ่อนปรน เป็นเพื่อนสนิทกันยังไงก็ตัดกันไม่ขาดหรอก เดี๋ยวก็ต้องกลับมาคืนดีกัน
3.อยากนั่งทำการบ้านนานๆ
ทำไมบางทีเราไม่ค่อยอยากนั่งทำการบ้านที่โต๊ะในห้องนอนตัวเองเป็นเวลานานๆ อุปสรรคที่เด่นๆ เลยอาจจะเกี่ยวกับการจัดห้องจัดโต๊ะด้วยนะ เพราะถ้าห้องที่วางของระเกะระกะหรือโต๊ะที่วางของเต็มไปหมดจนรก รวมทั้งเรื่องแสงไฟที่อาจจะไม่สว่างเพียงพอ ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เราไม่อยากนั่งทำการบ้านเป็นเวลานานๆ ได้ วิธีง่ายๆที่อยากให้ลองทำกันดู ขั้นแรกจัดห้องให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้ดูแอดอัดเกินไป จากนั้นก็จัดโต๊ะให้โล่งๆ น่านั่งทำการบ้าน อาจจะแปะรูปดารานักร้องคนโปรดไว้แถวๆ นั้นด้วย หรืออาจจะมีโมเดล ของเล่นน่ารักๆ ตั้งโชว์ให้ดูมุ้งมิ้งซะหน่อย ถ้าห้องใครมีหน้าต่าง ก็อาจจะจัดโต๊ะให้อยู่ในตำแหน่งที่เราสามารถมองออกไปนอกหน้าต่างได้ในเวลาพักสายตายังไงล่ะ การจัดห้องให้อยู่ จัดโต๊ะให้น่านั่ง จะทำให้เราสมองปลอดโปร่งและอยากทำการบ้านมากขึ้นเลยทีเดียวล่ะ
4.ง่วงนอนตลอดเวลา
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เพื่อนๆ บางคนมีอาการแบบนี้ นั่นคือง่วงนอนง่าย พอตกบ่ายทีไรก็ง่วงทุกที เป็นเพราะพวกเรามักจะทานอาหารกลางวันจำพวกแป้งเข้าไปเยอะ พอหนังท้องตึง หนังตาก็เลยหย่อน ดังนั้นพวกเราควรจะทานอาหารให้อิ่มพอประมาณ เน้นพวกโปรตีน หรือจะเป็นผักผลไม้เพื่อสร้างความสดชื่นบ้างจะดีกว่า แต่ถ้าทำตามวิธีนี้แล้วยังไม่หายง่วงกัน แบบนี้ก็ต้องย้อนไปดูอีกสาเหตุแล้วว่าเมื่อคืนนอนดึกรึเปล่า ถ้าใช่ เพื่อนๆ ก็ต้องปรับเปลี่ยนเวลานอนให้ไวขึ้นเท่านั้นเอง แค่นี้นอกจากเพื่อนๆ จะสดใส ร่าเริง ตาไม่ปรือตลอดวันแล้ว ตอนบ่ายๆ ยังไม่เผลองีบในห้องเรียนให้ถูกคุณครูดุด้วยน้า แต่ถ้ายังไม่หายง่วงกันอีก แนะนำให้เพื่อนๆ ลุกขึ้นไปเดินยืดเส้นยืดสาย ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วล้างหน้าหน้าตาโลด
5.เครียด ใครๆ ก็เครียดได้
มีใครบ้างไม่เคยเครียด ทุกเรื่องที่กระทบใจเราโดยตรงก็ล้วนทำให้เครียดได้หมด ไม่ว่าจะเป็นทะเลาะกับเพื่อน เงินไม่พอใช้ ทำข้อสอบผิด ทำการบ้านไม่เสร็จ ออกจากบ้านแล้วลืมล็อกประตู บลาๆๆ สารพันปัญหาชวนเครียดล้วนเกิดได้ทุกวี่วัน แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เราจะเครียดให้มันปวดหัวทำไมล่ะ ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเราสามารถเครียดได้ แต่ควรเครียดแบบมีระดับ เช่น ถ้าเป็นเรื่องเบาๆ ก็ไม่ควรเก็บมาเครียดจนเหมือนเรื่องมันใหญ่โตมาก เพราะลำดับต่อมา เราจะเริ่มหงุดหงิด ถ้าไปแสดงออกกับใคร ก็ต้องไม่มีคนอยากอยู่ใกล้ ดังนั้นควรพยายามสงบสติอารมณ์ก่อนด่วนๆ หาอะไรทำคลายเครียดให้ไว แล้วค่อยๆ คิดหาทางแก้ปัญหากันไป อะไรแก้ได้ก็คือแก้ได้ แต่ถ้าแก้ไม่ได้ก็ต้องทำใจ เวลาเท่านั้นจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น อย่าลืมนะว่า เครียดได้ แต่อย่าเยอะ เอาที่พอดีๆ ไม่เดือดร้อนใครก็พอ
เห็นมั้ยล่ะว่าทุกเรื่องหนักใจที่เด็กไทยส่วนใหญ่กำลังเผชิญอยู่ เรามีทางแก้ไขได้หมด แต่ถ้าเจอปัญหาหนักกว่าทุกครั้ง ต้องหาที่ปรึกษานะเออ ห้ามเก็บไว้กับตัวคนเดียว และที่ปรึกษาที่ดีที่สุดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ครอบครัวของเราไงล่ะ สู้ๆ นะทุกคน กัมบัตเตะ!
คลิกสั่งซื้อหนังสือ Depression Diary #มันไม่ได้เศร้าอย่างที่คิดหรอกนะ